เปิด 10 อันดับเมืองชั้นนำดัชนีเมืองระดับโลก’กทม.’รั้งที่ 33 ขยับขึ้น 1 อันดับ

รายงานล่าสุดจาก คาร์นีย์ (Kearney)ได้เน้นถึงขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลกและความสามารถในการปรับตัวของกรุงเทพมหานครในดัชนีเมืองระดับโลก (GlobalCities Index – GCI) ฉบับปี 2025
โดยรายงานนี้จัดอันดับเมืองที่มีความเชื่อมโยงและมีอิทธิพลในระดับนานาชาติสูงที่สุดแม้ต้องเผชิญกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ดัชนี GCI ของ Kearney ทำการประเมินเมืองต่าง ๆ ทั่วโลกผ่าน 5 มิติหลัก ได้แก่กิจกรรมทางธุรกิจ ทรัพยากรมนุษย์ การแลกเปลี่ยนข้อมูล ประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและการมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยอาศัยตัวชี้วัดรวมทั้งสิ้น 31 รายการเพื่อสะท้อนศักยภาพของเมืองในการดึงดูด รักษาไว้และส่งเสริมการเคลื่อนไหวของผู้คน เงินทุน และแนวคิดในระดับโลก
กรุงเทพมหานครขยับขึ้น 1 อันดับจากอันดับที่ 34 ในรายงานปี 2024 มาอยู่ที่อันดับที่33 ในดัชนีปี 2025 แม้อยู่ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกโดยการเลื่อนอันดับดังกล่าวมีปัจจัยมาจากการพัฒนาในมิติกิจกรรมทางธุรกิจซึ่งปรับตัวดีขึ้นถึง 7 อันดับ โดยเฉพาะในด้านการจัดประชุมทางธุรกิจตามตัวชี้วัดของสมาคมการประชุมนานาชาติ (ICCA) และตัวชี้วัดด้านตลาดทุนรายงานยังระบุว่า การเติบโตของการค้าภายในภูมิภาคมีส่วนช่วยหนุนผลลัพธ์ดังกล่าวแม้จะเผชิญบริบทโลกที่มีความซับซ้อนและแบ่งขั้วมากขึ้น
รายงานระบุว่า ในยุคของปัญญาประดิษฐ์และสังคมข้อมูลเมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็วอย่างกรุงเทพฯไม่ได้แข่งขันเพียงแค่ขนาดหรือประวัติศาสตร์อันยาวนานแต่ยังแข่งขันด้วยความพร้อมในการพัฒนาศักยภาพเมืองให้สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานทดแทน และบุคลากรที่มีทักษะสูงเพื่อก้าวทันและใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดจากปัญญาประดิษฐ์พร้อมทั้งบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ
10 อันดับเมืองชั้นนำในดัชนีเมืองระดับโลก (Global Cities Index) ประจำปี 2025
ได้แก่:
1. นิวยอร์ก
2. ลอนดอน
3. ปารีส
4. โตเกียว
5. สิงคโปร์
6. ปักกิ่ง
7. ฮ่องกง
8. เซี่ยงไฮ้
9. ลอสแอนเจลิส
10. ชิคาโก
โอกาสและจุดแข็งของกรุงเทพฯ ในบริบทโลก
กรุงเทพฯ กำลังก้าวหน้าอย่างโดดเด่นในหลายด้านสำคัญเพื่อพัฒนาเป็นเมืองระดับโลกที่พร้อมด้านดิจิทัลและมีความสามารถในการปรับตัวหนึ่งในจุดเด่นคือการเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงในหลายตัวชี้วัดด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยเฉพาะในส่วนของศูนย์ข้อมูล (Data Centre) ที่มีอันดับดีขึ้นจากอันดับ 78
ในปีที่ผ่านมา มาอยู่ที่อันดับ 55 ในปีนี้ แม้ว่าความเร็วอินเทอร์เน็ตจะลดลงเล็กน้อยแต่กรุงเทพฯ ยังคงครองอันดับสูงในระดับ 22ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสในการพัฒนาเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้มุ่งเน้นเทคโนโลยีและดิจิทัลมากยิ่งขึ้น
อีกหนึ่งโอกาสสำคัญในการเติบโตคือการขยายการเข้าถึงและสมัครใช้งานบริการบรอดแบนด์ในกรุงเทพฯ ปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 118การส่งเสริมความเสมอภาคทางดิจิทัลจะช่วยให้ประชาชนและภาคธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมต่อที่มีคุณภาพได้อย่างเต็มศักยภาพ
คุณดาวิด อูเลนบร็อค พาร์ตเนอร์ของ Kearney ประเทศไทย กล่าวว่า “กรุงเทพฯมีองค์ประกอบครบถ้วนที่จำเป็นสำหรับการก้าวสู่การเป็นเมืองระดับโลกชั้นนำในทศวรรษหน้า ทรัพยากรมนุษย์ถือเป็นหนึ่งในโอกาสที่สำคัญที่สุดของกรุงเทพฯแม้ว่าเมืองอื่น ๆ ในภูมิภาคจะมีการขยับขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าเรามีความเชื่อมั่นในทัศนคติเชิงบวกว่ารัฐบาลไทยจะยังคงลงทุนในการดึงดูดและรักษาทรัพยากรมนุษย์อย่างต่อเนื่องรวมถึงการขยายโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและเน้นนวัตกรรมทางกฎระเบียบ”
ถึงแม้ว่ากรุงเทพฯ จะอยู่ในอันดับที่ 97 ด้านจำนวนประชากรที่เกิดในต่างประเทศต่ำกว่าเมืองอย่างจาการ์ตา (อันดับ 37), กัวลาลัมเปอร์ (อันดับ 40) และสิงคโปร์(อันดับ 12) แต่ช่องว่างนี้ยังสะท้อนถึงโอกาสในการพัฒนาของกรุงเทพฯ ในอนาคตประชากรที่มีความหลากหลายและเป็นนานาชาติจะช่วยเสริมสร้างการเชื่อมต่อในระดั
บโลก ส่งเสริมนวัตกรรม และเพิ่มความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของเมืองซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันและความพร้อมในการปรับตัวในยุคปัจจุบัน
ศูนย์กลางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย: พลังขับเคลื่อนการเติบโตของภูมิภาค
เมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ในเอเชียหลายแห่งกำลังมีบทบาทเพิ่มขึ้นในดัชนี GCIจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาบุคลากรและความพร้อมด้านดิจิทัลซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นในหลายมิติของการประเมินโดยเฉพาะในด้านกิจกรรมทางธุรกิจ
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือเมืองไทเปและกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งสามารถขยับอันดับขึ้นได้ถึง 13และ 9 อันดับตามลำดับ
ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแสดงศักยภาพที่โดดเด่นเหนือภูมิภาคอื่น ๆ
ในด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยทุกภูมิภาคมีคะแนนเพิ่มขึ้นในมิตินี้ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและการบูรณาการในระดับโลกที่ส่งผลต่อการแข่งขันของเมือง เมืองต่าง ๆ เช่น เซินหยาง โอซาก้า ไทเปและมุมไบ มีพัฒนาการที่โดดเด่น
โดยแต่ละเมืองได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านการเชื่อมต่อและการพัฒนาภาคบริการรายงานภาพรวมแนวโน้มการพัฒนาเมืองระดับโลก (Global Cities Outlook)ในขณะที่ดัชนีเมืองระดับโลก (GCI) สะท้อนภาพการดำเนินงานในปัจจุบันรายงานภาพรวมแนวโน้มการพัฒนาเมืองระดับโลก (GCO)มุ่งเน้นการประเมินศักยภาพในอนาคต
โดยวัดประสิทธิภาพของเมืองชั้นนำทั่วโลกในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อความสำเร็จ โดยประเมินผ่าน 4 มิติหลัก ได้แก่ ความเป็นอยู่ส่วนบุคคล เศรษฐกิจ นวัตกรรมและการบริหารจัดการเมืองในภูมิภาคตะวันตกกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านธรรมาภิบาลและความเป็นอยู่ทางสังคม โดยได้รับผลกระทบจากความไม่เท่าเทียมและความแตกแยกทางการเมือง
ขณะที่สิงคโปร์และโซลมีการเติบโตอย่างโดดเด่นจนก้าวขึ้นสู่ 5 อันดับแรกส่วนเมืองที่กำลังมีบทบาทเพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชีย เช่น ไทเปและจาการ์ตาก็แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงโอกาสที่ขยายตัวในระดับโลก
สำหรับกรุงเทพมหานคร ยังคงอยู่ในอันดับที่ 105 เช่นเดิมตั้งแต่ปี 2023เพื่อที่จะก้าวขึ้นสู่อันดับที่สูงขึ้น กรุงเทพฯ ควรมุ่งเน้นการเสริมศักยภาพด้านนวัตกรรมส่งเสริมความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม และสร้างความเท่าเทียมทางสังคมให้มากขึ้นมุมมองอนาคต: ผู้นำในยุคแห่งความชาญฉลาด
รายงานปี 2025 สรุปว่าความสามารถในการแข่งขันระยะยาวของเมืองขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ 3ด้านที่สัมพันธ์กัน ได้แก่ การเพิ่มศักยภาพด้านพลังงานการเติบโตท่ามกลางความน่าอยู่และความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของเมืองและการพัฒนาบุคลากรที่พร้อมรองรับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เมืองที่ดำเนินงานอย่างเป็นระบบโดยบูรณาการปัจจัยเหล่านี้เข้ากับวิสัยทัศน์ที่เป็นหนึ่งเดียวจะไม่เพียงแต่รับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพแต่ยังสามารถกำหนดยุคสมัยใหม่แห่งการเป็นผู้นำระดับโลกได้อีกด้วย